
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยความคืบหน้าการส่งออกสินค้าเกษตรผ่านประเทศที่ 3 ไปยังจีน โดยใช้เส้นทางสาย R9 จากไทย ลาว เวียดนาม เข้าสู่ด่านผิงเสียง (โหย่วอี้กว่าน) ของจีนว่า ขณะนี้กระทรวงควบคุมคุณภาพและตรวจสอบกักกันโรคแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ออกใบอนุญาตนำเข้าแก่ผู้ส่งออกไทยแล้ว 1 บริษัท โดยด่านตรวจพืชมุกดาหาร กรมวิชาการเกษตร จะเริ่มตรวจปล่อยสินค้าล็อตแรกส่งออกไปจีนผ่านเส้นทาง R9 นี้ ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.นี้เป็นต้นไป
สำหรับสินค้าผลไม้ที่ส่งออกล็อตแรกมี 4 ตู้คอนเทนเนอร์ แยกเป็นส้มโอจาก จ.นครปฐม 1 ตู้คอนเทนเนอร์ ลำไยจากเชียงใหม่ 2 ตู้คอนเทนเนอร์ และมังคุดจากนครศรีธรรมราช 1 ตู้คอนเทนเนอร์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ในช่วงเดือนแรกนี้คาดว่าไทยจะสามารถผลักดันส่งออกผลไม้ไปได้ไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท/เดือน
ปัจจุบันทางจีนกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาออกใบอนุญาตนำเข้าผู้ส่งออกของไทยเพิ่มอีกประมาณ 10-20 ราย คาดว่าไทยจะสามารถระบายสินค้าผลไม้ส่งออกไปยังจีนได้ปริมาณมาก โดยเฉพาะผลไม้เศรษฐกิจหลัก อาทิ ส้มโอ มังคุด ทุเรียน ลำใย ลิ้นจี่ และมะม่วง รวมถึงสินค้ายางพารา คิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 100-200 ล้านบาท ทั้งนี้ การขนส่งด้วยเส้นทาง R9 สามารถร่นระยะเวลาในการขนส่งจากเดิมที่ขนส่งทางเรือใช้ระยะเวลาประมาณ 5-7 วัน เหลือเพียง 2-3 วัน ทำให้สินค้าถึงประเทศปลายทางได้อย่างรวดเร็วทันต่อความต้องการของตลาด
อย่างไรก็ตาม กรมวิชาการเกษตรได้เสริมกำลังเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชมุกดาหารเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบ พร้อมออกใบรับรองสุขอนามัยพืชให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อควบคุมการส่งออกให้เป็นไปตามเงื่อนไขการขนส่งสินค้าข้ามแดน และข้อกำหนดด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ตามข้อตกลงไทย-จีน.-สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-07-13 16:06:14